2 พันโรงงานนอกนิคมอ่วม ติดล็อกผังเมืองแปดริ้ว EEC กรมโยธาและผังเมืองชี้เหตุกว้านซื้อที่นาราคาถูกนอกเขตอุตสาหกรรมผุดโรงงาน

อุตสาหกรรมเมืองแปดริ้ว 2 พันโรงงานป่วน ติดล็อกผังเมือง แช่แข็ง 9 เดือน โรงงานแบตเตอรี่-ค่ายรถ BMW สนามกอล์ฟตระกูลเตชะไพบูลย์ โดนถ้วนหน้า กรมโยธาและผังเมืองชี้เหตุกว้านซื้อที่นาราคาถูกนอกเขตอุตสาหกรรมผุดโรงงาน

นายวัฒนา รัตนวงศ์ ประธานหอการค้าจังหวัดฉะเชิงเทรา เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า แม้รัฐบาลกำลังเร่งผลักดันโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) และ จ.ฉะเชิงเทรา เป็น 1 ใน 3 จังหวัดที่อยู่ภายใต้โครงการอีอีซี แต่เป็นปัญหาใหญ่และสร้างความวิตกกังวลให้กับภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมใน จ.ฉะเชิงเทรา และมีผู้ประกอบการเอกชนจำนวนมากได้รับความเดือดร้อนคือการจัดทำผังเมืองรวม จ.ฉะเชิงเทรา ที่ยังล่าช้า

อุตฯติดล็อกผังเมืองแปดริ้ว

ล่าสุด กรมโยธาธิการและผังเมือง เพิ่งว่าจ้างให้บริษัทที่ปรึกษาดำเนินการซึ่งต้องใช้เวลา 270 วัน หรือ 9 เดือนกว่าจะแล้วเสร็จ ส่งผลให้ผู้ประกอบธุรกิจโรงงานอุตสาหกรรมบางส่วนไม่ขยายโรงงาน หรือก่อสร้างโรงงานใหม่ได้ ต้องรอการประกาศใช้ผังเมืองรวมฉบับใหม่

จากก่อนหน้านี้กรมโยธาธิการและผังเมืองได้ยกร่างแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวม จ.ฉะเชิงเทรา พ.ศ. 2555 ปรับเปลี่ยนการใช้ประโยชน์ที่ดิน จากเดิมเป็นพื้นที่สีเขียว เป็นที่ดินประเภทชนบทและเกษตรกรรม เกือบทั้งจังหวัด เน้นให้ใช้ประโยชน์เฉพาะด้านเกษตรกรรมและที่อยู่อาศัย โดยแก้ไขให้สามารถใช้ประกอบกิจการโรงงานได้ อย่างไรก็ตาม หลังรัฐบาลมีแผนพัฒนาโครงอีอีซี และต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้อำนาจตามมาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวฯ ปี 2557 ยกเว้นการบังคับใช้กฎหมายผังเมือง ระหว่างรอร่าง พ.ร.บ.ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก พ.ศ. …ประกาศใช้ จึงต้องรอร่างผังเมืองรวม จ.ฉะเชิงเทรา ฉบับใหม่ ผังเมืองรวม 3 จังหวัดอีอีซีที่อยู่ระหว่างสำรวจและจัดโซนนิ่งการใช้ประโยชน์ที่ดิน

2 พัน รง.ป่วน-BMW โดนด้วย

ที่ประสบปัญหาหนักคือโรงงานอุตสาหกรรมที่ต้องการปรับเปลี่ยนธุรกิจ เช่น เดิมเคยผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ แต่ต้องการเปลี่ยนไลน์อุตสาหกรรมหันไปผลิตเครื่องมือทางการแพทย์ ให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงของภาคอุตสาหกรรมและกระแสโลก เพราะในอนาคตรถยนต์ไฟฟ้าจะมาแทนที่รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปเป็นกลไกในการขับเคลื่อน ซึ่งคาดว่าภายในระยะเวลาอีกไม่กี่ปีอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ปัจจุบันจะอยู่ได้ลำบาก แต่ไม่สามารถยื่นขออนุญาตปรับเปลี่ยนโรงงานหรือเครื่องจักรในการผลิต เนื่องจากติดเงื่อนไขทางด้านผังเมือง

ทั้งนี้ โรงงานอุตสาหกรรมใน จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งมีทั้งหมดกว่า 2,000 โรงงาน กระจายอยู่ใน อ.เมือง อ.บางน้ำเปรี้ยว อ.บ้านโพธิ์ และในจำนวนนี้เป็นโรงงานที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) รวมอยู่ด้วย ต่างประสบปัญหาในการลงทุน ขยับขยายโรงงาน หรือปรับเปลี่ยนการผลิต จึงต้องการให้เร่งจัดทำผังเมืองรวมทั้งจังหวัดให้เสร็จเรียบร้อยโดยเร็ว

ขณะเดียวกันนอกจากผู้ประกอบการโรงงานคนไทย ทุนต่างชาติที่ต้องการเข้ามาลงทุนใน จ.ฉะเชิงเทรา ก็ประสบปัญหาดังกล่าวเช่นเดียวกัน อย่างค่ายรถยนต์หรูบีเอ็มดับเบิลยู (BMW) มีแผนจะก่อสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ส่งออกต่างประเทศ บนเนื้อที่ 2,500 ไร่ ในทำเลอ.บางปะกง ก็ต้องรอความชัดเจนจากผังเมืองรวม จ.ฉะเชิงเทรา ฉบับใหม่ด้วย

แห่ซื้อที่นาราคาถูกผุดโรงงาน

ด้านนายเฉลิมพล ต.สุวรรณ โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า กรณีผู้ประกอบการไม่สามารถขยายการลงทุนในพื้นที่ฉะเชิงเทราได้ เนื่องจากติดผังเมืองรวมนั้น ปัญหาเกิดจากมีการเข้าไปซื้อที่ดินอยู่นอกเหนือพื้นที่สีม่วง หรือเขตนิคมอุตสาหกรรม

โดยไปซื้อที่นาอยู่ในพื้นที่สีเขียว ตามผังเมืองกำหนดให้เป็นที่ดินประเภทเกษตรกรรม จะไม่สามารถพัฒนาเชิงพาณิชย์หรือโรงงานได้ เนื่องจากราคาที่ดินจะถูกกว่าพื้นที่สีม่วง ทำให้ไม่สามารถขยายการลงทุนหรือธุรกิจใหม่ ๆ ได้ จึงจะขอปรับเปลี่ยนข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินจากพื้นที่สีเขียวเป็นสีม่วง ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ อ.บ้านโพธิ์ อ.บางปะกง อ.พนมสารคาม อ.บางน้ำเปรี้ยว อ.แปลงยาว

ล่าสุดเมื่อวันที่ 5 มี.ค. 2561 นายสุวิทย์ คำดี ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้เชิญผู้ประกอบการที่ประสบปัญหาทั้งหมดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น โยธาธิการและผังเมือง สภาอุตสาหกรรมฯ หอการค้า รวมถึงสำนักงานเพื่อการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (สกรศ.) หรือคณะกรรมการอีอีซี ประชุมหารือร่วมกัน

รอบอร์ดอีอีซีเคาะ

โดยผู้ว่าฯให้รวบรวมปัญหาต่าง ๆ ที่ชาวบ้านและนักธุรกิจในจังหวัดร้องขอ เสนอให้กระทรวงอุตสาหกรรม คณะกรรมการอีอีซี และกรมโยธาธิการและผังเมือง เพื่อนำไปประกอบการพิจารณาดำเนินการจัดทำกรอบผังเมืองรวมอีอีซีที่จะครอบคลุมการใช้พื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการจัดวางผัง ทั้งนี้เมื่อผังเมืองรวมอีอีซีมีผลบังคับใช้แล้ว จะยกเลิกผังเมืองรวมทั้ง 3 จังหวัด

“ในที่ประชุมทางผู้ประกอบการมีการระบุถึงมูลค่าการลงทุนประมาณ 2 แสนล้านบาท ที่จะมาจากการขยายโรงงานใหม่และธุรกิจใหม่ ๆ เช่น รถยนต์ไฟฟ้า ที่อยู่อาศัยรองรับผู้สูงวัย เป็นต้น ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการอีอีซีจะแก้ปัญหาหรือส่งเสริมการพัฒนาโครงการต่าง ๆ อย่างไร”

“เตชะไพบูลย์” แจ็กพอต

รายงานข่าวแจ้งว่า หนึ่งในผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากผังเมืองรวมจังหวัดฉะเชิงเทรา และขอปรับเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดิน คือ โครงการโลตัส วัลเล่ย์ กอล์ฟ รีสอร์ท ธุรกิจสนามกอล์ฟของนายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ ตั้งอยู่ อ.บางน้ำเปรี้ยว โดยมีแผนจะร่วมทุนกับญี่ปุ่นลงทุนประมาณ 5,000 ล้านบาท พัฒนาสนามกอล์ฟให้มีการบริการครบวงจร เช่น โรงแรม แต่ติดข้อกำหนดผังเมือง เนื่องจากอยู่ในพื้นที่สีเขียว ไม่สามารถก่อสร้างได้ ทำให้ต้องรอการประกาศใช้ผังเมืองฉบับใหม่ ซึ่งจะผนวกเป็นผังเมืองอีอีซีเช่นเดียวกัน

อุตฯ new S-curve แห่ลงทุน

ขณะที่นายปรัชญา สมะลาภา ประธานกรรมการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก สภาหอการค้าไทย เปิดเผยว่า พื้นที่ผังเมืองสีเขียวกับการขยายพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมเป็นปัญหาในทุกจังหวัด ทั้งนี้ในกรณีของอีอีซี นายกฯมีคำสั่งให้จัดการผังเมืองเป็นการเร่งด่วนแล้ว อย่างไรก็ตาม ประเด็นสำคัญในเรื่องการจัดทำผังเมืองคือการให้ประชาชนในพื้นที่มีส่วนร่วมในการจัดการและตัดสินใจ

ในส่วนการลงทุนในพื้นที่เขตจังหวัดอีอีซี พบว่าได้รับความสนใจมากตั้งแต่ช่วงต้นปีเป็นต้นมา โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดชลบุรีและระยอง มีผู้ประกอบการรายใหม่ ๆ เข้ามาดูพื้นที่เพื่อจะจัดสร้างโรงงาน โดยเฉพาะผู้ประกอบการในภาคส่วน new S-curve ที่ได้รับการสนับสนุนจาก BOI ในขณะที่ผู้ประกอบการรายเก่า ซึ่งไม่ได้ขยายฐานการผลิตในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ก็มีการขออนุญาตขยายโรงงานและเพิ่มกำลังการผลิต แต่ยังไม่สามารถสรุปตัวเลขที่แน่ชัดได้

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

Scroll Up