แผนธุรกิจสถานีคำสะหวาด สปป.ลาวอ้าแขนรับนักธุรกิจไทยลงทุน

ตลอดเวลาผ่านมา สำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) หรือ สพพ. หรือ NEDA ให้ความช่วยเหลือประเทศ สปป.ลาว ทั้งหมด 33 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 15,511.86 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นการช่วยเหลือทางการเงินจำนวน 21 โครงการ มูลค่า 15,322.86 ล้านบาท และการให้ความช่วยเหลือทางวิชาการจำนวน 12 โครงการ มูลค่า 189 ล้านบาท

“พีรเมศร์ วุฒิธรเนติรักษ์” ผู้อำนวยการสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) หรือ สพพ. หรือ NEDA กล่าวว่า สถานีรถไฟเวียงจันทน์ (คำสะหวาด) เป็นการขยายระบบคมนาคมขนส่งทางรางของ สปป.ลาว ที่ต่อเนื่องจากระยะแรกของเส้นทางหนองคาย-ท่านาแล้ง และเส้นทางท่านาแล้ง-เวียงจันทน์ ระยะที่ 2 ส่วนที่ 1 คืองานก่อสร้างย่านกองเก็บตู้คอนเทนเนอร์ (Container Yard) ซึ่งเป็นการสนับสนุนยุทธศาสตร์การพัฒนาทางรถไฟแห่งชาติลาว (National Railway Development Strategy) ที่ต้องการพัฒนาการขนส่งสินค้าในปริมาณมากทางระบบราง เพื่อเชื่อมโยงระหว่างประเทศไทยกับ สปป.ลาว

โดยงานก่อสร้างทางรถไฟสายท่านาแล้ง-เวียงจันทน์ ระยะที่ 2 ส่วนที่ 2 เริ่มต้นก่อสร้างเมื่อปี 2562 มีขอบเขตในการพัฒนางานก่อสร้างระบบรางรถไฟหลัก สำหรับสถานีรถไฟเวียงจันทน์ (คำสะหวาด) อยู่ในความรับผิดชอบของกรมรถไฟ กระทรวงโยธาธิการและขนส่ง สปป.ลาว ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อขนส่งผู้โดยสาร และสินค้าด้วยระบบรางขนาด 1 เมตร สถานีรถไฟเวียงจันทน์ (คำสะหวาด) เป็นสถานีรถไฟขนาด 2 ชั้น 2 ชานชาลา โดยชั้น 1 มีพื้นที่ 6,300 ตารางเมตร และชั้น 2 มีพื้นที่ 3,600 ตางเมตร นอกจากนั้นยังมีพื้นที่ชานชาลาอีก 3,600 ตารางเมตร ขณะนี้ก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ และพร้อมเปิดให้บริการประมาณปลายปี 2566

“พีรเมศร์” กล่าวต่อว่า สถานีรถไฟเวียงจันทน์ (คำสะหวาด) จะเชื่อมโยงระหว่างประเทศในอนุภูมิภาค โดยพัฒนาการคมนาคมขนส่งระบบรางระหว่างประเทศไทยกับ สปป.ลาว (สายกรุงเทพมหานคร-นครเวียงจันทน์) นอกจากจะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศไทย และ สปป.ลาว ยังเชื่อมโยงไปยังประเทศที่สาม ได้แก่ จีน และเวียดนาม อีกด้วย

ดังนั้น นอกจากจะทำให้เกิดการค้าขายในกลุ่มประเทศดังกล่าว ยังช่วยลดต้นทุน และเพิ่มศักยภาพในการขนส่งสินค้า จนทำให้เกิดการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ยังสร้างโอกาสให้ภาคเอกชนของไทยไปประกอบธุรกิจใน สปป.ลาวอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการรับสัมปทานบริหารจัดการ CY และการบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์ในสถานีเวียงจันทน์ พร้อมกับสนับสนุนให้มีการจ้างงาน และใช้สินค้าวัสดุอุปกรณ์การก่อสร้างที่มาจากไทยมากยิ่งขึ้น

“ผลตรงนี้ ไม่เพียงจะเกิดประโยชน์ต่อประชาชนชาวไทย และชาวลาว หากยังเกิดประโยชน์กับประชาชนแถบภูมิภาคนี้ด้วย เพราะนอกจากจะทำให้เกิดการหมุนเวียนทางการเงินภายในประเทศ ยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทย ยิ่งเฉพาะตอนนี้นครหลวงเวียงจันทน์เป็นหมุดหมายหลักของนักท่องเที่ยว และนักธุรกิจจำนวนมาก เพราะสามารถเดินทางต่ออีกเพียง 6-8 กิโลเมตร ก็สามารถนั่งรถไฟความเร็วสูงจากสถานีเวียงจันทน์ (สปป.ลาว) ไปยังสถานีบ่อเต็น (จีน) อย่างง่ายดาย”

นอกจากนั้น “พีรเมศร์” ยังกล่าวถึงแผนพัฒนาธุรกิจบริเวณโดยรอบสถานีเวียงจันทน์ (คำสะหวาด) ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่สำหรับเขา แต่เราพร้อมยินดีให้คำแนะนำ และให้ความช่วยเหลือ ซึ่งผมมองว่าตอนนี้โครงสร้างพื้นฐานเสร็จหมดเรียบร้อยแล้ว ต่อไปความเจริญจะมาตามแผนธุรกิจที่วางไว้ และจากนั้นเศรษฐกิจจะตามมาเอง จะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับความสามารถในการบริหารจัดการของประเทศเขาด้วย

“แต่โดยส่วนตัวเชื่อว่าต่อไปเศรษฐกิจโดยรวมน่าจะดี เพราะนอกจากด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) จากที่เคยอยู่สถานีท่านาแล้ง จะมาอยู่ที่นี่ทั้งหมด คงปล่อยให้สถานีท่านาแล้งดำเนินการเรื่องการขนส่งสินค้าเพียงอย่างเดียว ดังนั้น หากนักท่องเที่ยวชาวไทย หรือชาวต่างประเทศนั่งรถไฟจากหนองคายเพื่อเข้าเวียงจันทน์ ก็จะมาดรอปที่นี่ก่อน ทั้งยังสามารถพักค้างคืนที่นี่ 1-2 วัน ก่อนจะเดินทางไปเวียงจันทน์ หลวงพระบาง และบ่อเต็น ต่อไปได้ ฉะนั้นนอกจากจะทำให้ระบบการคมนาคมขนส่งเกิดความคึกคัก ยังทำให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนแถบบริเวณนี้ด้วย”

ขอขอบคุณแหล่งข้าวที่มา : https://www.prachachat.net/local-economy/news-1368622

#โกดังบางปะกง #โกดังให้เช่า #โกดังเก็บสินค้าเกษตร #ท่าเรือบางปะกง #บางปะกง #ท่าเรือบ้านโพธิ์ #แม่น้ำบางปะกง #โกดังฉะเชิงเทรา #คลังสินค้าให้เช่า #สินค้าเทกอง #โกดังเทกอง #โกดังเก็บสินค้า #banphoport #คลังสินค้าเทกอง #ท่าเรือข้าว #ท่าเรือสินค้าเกษตร
Scroll Up