สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือฯ หวั่นบาทแข็งค่ากระทบการส่งออกไทย

การส่งออกไทย 7 เดือนแรกโต 3.8% ถือว่าเป็นไปในทิศทางที่ดี แม้จะได้รับความกดดันจากปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ และภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวก็ตาม แต่การส่งออกของไทยยังเป็นไปได้ตามเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ ในขณะที่สิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการและผู้ส่งออกต้องเฝ้าระวัง คือ ค่าเงินบาทแข็งค่าเร็วอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลโดยตรงต่อการส่งออกทันที เนื่องจากการแข็งค่าของเงินบาท ทำให้ราคาสินค้าของไทยสูงกว่าคู่แข่ง ส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขันที่ลดลงของผู้ประกอบการในประเทศ

โดยนายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) มีข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลใหม่ด้านโครงสร้าง ด้วยการที่รัฐบาลต้องมุ่งเน้นให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นชาติการค้า เพื่อช่วยสร้างเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง มีเสถียรภาพ และแข่งขันได้ในระดับสากล และการพัฒนาการส่งออก ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ให้สามารถแข่งขันและเติบโตอย่างมั่นคง มากไปกว่านั้นจำเป็นต้องเร่งแก้ไขปัญหาความแออัดท่าเรือแหลมฉบัง ที่มีมาต่อเนื่อง ประกอบกับค่าน้ำมันที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และปัญหายังไม่ได้บรรเทาลง สถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น และมีความติดขัดมากขึ้น ส่งผลต่อต้นทุนที่ผู้ส่งออก-นำเข้าต้องแบกรับ รวมถึงศักยภาพการแข่งขันทางการค้าระหว่างประเทศที่ลดลง

สรท.ระบุด้วยว่าสิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการ ผู้ส่งออกต้องเฝ้าระวังในครึ่งปีหลัง 2567 ได้แก่
 
1) ค่าเงินบาทแข็งค่าเร็วอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลโดยตรงต่อการส่งออกทันที เนื่องจากการแข็งค่าของเงินบาท ทำให้ราคาสินค้าของไทยสูงกว่าคู่แข่ง ส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขันที่ลดลงของผู้ประกอบการในประเทศ
 
2) ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ อาทิ 2.1) สหรัฐ สหภาพยุโรป และแคนาดา ตั้งกำแพงภาษีสินค้าจีน ส่งผลให้สินค้าจีนไหลกลับมายังตลาดเอเชีย 2.2) สถานการณ์สงครามในตะวันออกกลางยังคงยืดเยื้อ
 
3) ปัญหาการขนส่งสินค้าทางทะเล 3.1) สหภาพแรงงานทั่วประเทศสหรัฐยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลง อาจทำให้เกิดความขัดแย้ง หยุดการผลิตและกระทบซัพพลายเชนในภาคการผลิต และการให้บริการในท่าเรือฝั่งตะวันออก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการเดินเรือในภาพรวมและปริมาณการนำเข้าของสหรัฐ
 
3.2) ค่าระวางเรือยังคงตึงตัวและผันผวนในท่าเรือหลัก ขณะที่เส้นทางภายในเอเชีย และตะวันออกกลาง ค่าระวางเริ่มลดลง แต่ในเส้นทางสหรัฐ อเมริกาใต้ สหภาพยุโรป และออสเตรเลีย ยังคงทรงตัวในระดับสูง และ
 
3.3) ปัญหาสภาพตู้ขนส่งสินค้าที่สายเรือส่งมอบให้บรรจุสินค้าต่ำกว่าความคาดหวังของผู้ส่งออก
 
4) การเข้าถึงและการตัดวงเงินสินเชื่อของผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ SMEs ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ
 
นายชัยชาญกล่าวอีกว่า สรท. มีข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลใหม่ที่สำคัญ ดังนี้ ด้านโครงสร้าง
 
1.รัฐบาลต้องมุ่งเน้นให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นชาติการค้า เพื่อช่วยสร้างเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง มีเสถียรภาพ และแข่งขันได้ในระดับสากล และการพัฒนาการส่งออก ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ให้สามารถแข่งขันและเติบโตอย่างมั่นคง
 
ซึ่งในโอกาสครบรอบการก่อตั้ง 30 ปี สรท. ได้นำเสนอแนวทางการพัฒนายุทธศาสตร์ชาติการค้า (Trading Nation) เพื่อผลักดันให้ภาครัฐและภาคเอกชนร่วมกันดำเนินการ 
 
ด้านโลจิสติกส์ 2.เร่งแก้ไขปัญหาความแออัดท่าเรือแหลมฉบัง ที่มีมาต่อเนื่อง ประกอบกับค่าน้ำมันที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และปัญหายังไม่ได้บรรเทาลง สถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น และมีความติดขัดมากขึ้น ส่งผลต่อต้นทุนที่ผู้ส่งออก-นำเข้าต้องแบกรับ รวมถึงศักยภาพการแข่งขันทางการค้าระหว่างประเทศที่ลดลง
 

ขอขอบคุณแหล่งที่มา prachachat.net

 

#ท่าเรือบางปะกง #คลังสินค้า #โกดัง #คลังสินค้าให้เช่า #โกดังให้เช่า #โกดังให้เช่าฉะเชิงเทรา #คลังสินค้าให้เช่าฉะเชิงเทรา #ให้เช่าโกดัง #โกดังสินค้า #ให้เช่าคลังสินค้า #โกดังบางปะกง #คลังสินค้าบางปะกง #สินค้าเกษตร #สินค้าเทกอง #จัมโบ้แบ็ค #ลงตู้ #บรรจุตู้ #โหลดสินค้า #กากถั่วเหลือง #มันเส้น #ข้าวโพด #เนื้อป่น #ข้าวสาลี #ข้าวบาร์เลย์ #ถั่วเม็ด #อาหารสัตว์ #คลังสินค้าเทกอง #คลังสินค้าอาหารสัตว์ #คลังสินค้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ #วัตถุดิบอาหารสัตว์

Scroll Up